วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ตัวละคร

รายชื่อตัวละครในนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ

ตัวเอก

อุซึมากิ นารูโตะ


อุซึมากิ นารูโตะ (ญี่ปุ่นうすまき ナルト ?) เริ่มปรากฏในมังงะบทที่ 1 และอะนิเมะ ตอนที่ 1 เกิดในวันที่ 10 ตุลาคม เลือดกรุ๊ปบี มีพ่อชื่อ นามิคาเสะ มินาโตะ (โฮคาเงะรุ่นที่ 4) แม่ชื่อ อุซึมากิ คุชินะ พ่ออุปถัมภ์ชื่อ จิไรยะ นารูโตะเป็นนินจาของหมู่บ้านโคโนฮะ มีชีวิตที่น่าสงสารในวัยเด็ก เป็นผู้ที่ถูกผนึกจิ้งจอกเก้าหางใว้ในท้องโดยโฮคาเงะรุ่น ที่ 4 พ่อของตน นารูโตะมีนิสัยร่าเริง รักสนุก นอกจากนี้ยังเป็นศิษย์ของหนึ่งในสามนินจาในตำนาน "จิไรยะ" นารูโตะแอบชอบซากุระซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีมและนารูโตะก็ได้สัญญากับตัวเองเอาไว้ว่า ฉันจะต้องเป็นโฮคาเงะให้ได้ แล้วหลังจากจบสงครามนินจาลงนารูโตะได้ทำตามความฝันจนได้เป็น "โฮคาเงะรุ่นที่7" และได้มีลูกกับ ฮิวงะ ฮินาตะ 2 คน คือ อุซึมากิ โบรูโตะ กับ อุซึมากิ ฮิมาวาริ

อุจิวะ ซาสึเกะ

อุจิวะ ซาสึเกะ (ญี่ปุ่นうちは サスケ ?) เริ่มปรากฏในมังงะบทที่ 3 และอะนิเมะตอนที่2 เกิดในวันที่ 23 กรกฎาคม เลือดกรุ๊ปเอบี มีพ่อชื่อ อุจิวะ ฟุงะกุ แม่ชื่อ อุจิวะ มิโกโตะ พี่ชายชื่อ อุจิวะ อิทาจิ เป็นทายาทคนสุดท้ายของตระกูลอุจิวะ เป็นผู้มีความสามารถในการใช้เนตรวงแหวน หลังจากการที่โดนพี่ชายล้างตระกูลเพื่อให้ซาสึเกะแข็งแกร่งขึ้นปัจจุบันได้รับเนตรวงแหวนจากอุจิวะ อิทาจิจนเป็นเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์ เป็นคนฆ่าโอโรจิมารุ แต่ก็เรียกโอโรจิมารุออกมาอีกครั้งจากอักขระของอังโกะ และภายหลัง อุจิวะ ซาสึเกะ ก็ได้เข้าร่วมกลุ่มแสงอุษา และในตอนหลังนั้น เมื่อสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 เกิดขึ้น อุจิวะ ซาสึเกะ ได้ร่วมสู้กับนารูโตะและเพื่อนๆ เพื่อกำจัด อุจิวะ มาดาระ และ คางูยะ จนสำเร็จ แล้วได้ยอมรับความสามารถของนารูโตะ และออกท่องเที่ยว แต่เขาก็มีลูกกับซากุระ 1 คน คือ อุจิวะ ซาราดะ

ฮารุโนะ ซากุระ

ฮารุโนะ ซากุระ (ญี่ปุ่น春野 サクラ ?) เริ่มปรากฏในมังงะบทที่ 3 และอะนิเมะตอนที่2 เกิดในวันที่ 28 มีนาคม เลือดกรุ๊ปโอ มีพ่อชื่อ ฮารุโนะ คิซาชิ แม่ชื่อ ฮารุโนะ เมบุกิ ซากุระเป็นนินจาที่ฉลาด เธอตกหลุมรัก ซาสึเกะ และพยายามเรียกร้อง ความสนใจจากเขา หลังจากที่ซากุระได้เดินทางร่วมทุกร่วมสุขกันกับกลุ่ม 7 เธอรู้สึกว่าอุสึมากิ นารูโตะ นั้นเป็นเพื่อนที่ดีมากคนหนึงจนแอบชอบนิดๆ จนในเมื่อสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 ได้จบลง เธอได้ตกลงปลงใจกับ ซาสึเกะ ] และมีลูกสาว 1 คน คือ อุจิวะ ซาราดะ

ฮาตาเกะ คาคาชิ

ฮาตาเกะ คาคาชิ (ญี่ปุ่นはがねコテツ ?) อดีตเคยเข้าสังกัดกองนินจาอันบุ ผมสีขาวของคาคาชิได้รับสืบทอดมาจากพ่อของเขา (ฮาตาเกะ ซาคุโมะ) ได้รับเนตรวงแหวนซึ่งได้รับมาจาก อุจิวะ โอบิโตะ (บุคคลที่ใส่หน้ากากที่คอยอยู่เบื้องหลังกลุ่มแสงอุษา หรือ โทบิ นั่นเอง) เพื่อนร่วมทีม มอบให้ก่อนที่จะเสียชีวิต เป็นโจนินฝีมือดีที่ได้รับการกล่าวขานทั้งในหน่วยลับและหน่วยราก ชอบอ่านอจึ๊ยสววรค์รำไรมาก หลังจบสงครามนินจาครั้งที่ 4 คาคาชิเป็นโฮคาเงะรุ่นที่6

ตัวร้าย

โอโตะโนะคุนิ

โอโรจิมารุ

โอโรจิมารุ (ญี่ปุ่น大蛇丸 ?) โอโรจิมารุอดีตนินจาจากหมู่บ้านโคโนฮะ เรียนวิชาจากโฮคาเงะรุ่นที่ 3 พร้อมกับซึนาเดะและจิไรยะ โดยเมื่อสมัยที่ยังอยู่ในโคโนฮะ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสามนินจาในตำนาน โอโรจิเป็นนินจาที่มีพรสวรรค์ พยายามที่จะเรียนรู้วิชานินจาทุกชนิดที่มี หลังจากที่พ่อแม่เขาตาย เขาก็ค้นคว้าเรื่องวิชาต้องห้ามไว้ทุกชนิด โอโรจิมารุนั้นใช้โหมดเซียนงูขาวได้ แต่ไม่สมบูรณ์ จึงมีตัวเป็นงูขาวหลายหัว ถูกอิทาจิใช้ดาบสะบั้นเมรัยสะกดในการต่อสู้กับซาสึเกะ ถูกซาสึเกะเรียกออกมาหลังจากอิทาจิจัดการคาบูโตะ
โอโรจิมารุ 3 นินจาในตำนานผู้ถอนตัวออกจากแสงอุษา ชอบคิดค้นวิชาประหลาด พ่ายแพ้ซาสึเกะในการต่อสู้และถูกสะกดไว้ในดาบสะบั้นเมรัยของอิทาจิ

ยาคุชิ คาบูโตะ

ยาคุชิ คาบูโตะ (ญี่ปุ่น薬師カブト ?) เป็นเด็กที่คนเดียวที่รอดมาจากสงครามที่ทุ่งดอกกระดิ่ง ถูกเลี้ยงโดยโจนินหน่วยแพทย์ ต่อมาได้ไปเป็นสายลับให้ดันโซแต่ภายหลังกลับถูกดันโซหักหลังจึงไปอยู่กับโอ โรจิมารุ คาบุโตะปลอมตัวมาสอบจูนินพร้อมกับ โยโรอิ และ ซึรุงิ คำว่า คาบูโตะ แปลว่า หมวกเกราะโดย 3 คนในทีมเป็นชื่อของอาวุธและเครื่องป้องกันคาบูโตะเคยเป็นลูกสมุนของซาโซริ ที่ส่งมาสอดแนมโอโรจิมารุ โดยใช้คาถาลับที่ทำให้คาบูโตะจำเรื่องของแสงอุษาไม่ได้เพื่อให้โอโรจิมารุ ไว้วางใจ แต่โอโรจิมารุ ได้คลายคาถาให้ หลังจากที่คาบูโตะ ได้ถูกคลายคาถาก็มีความสนใจที่จะเข้าร่วมเป็นพวกกับโอโรจิมารุมากกว่า ถนัดวิชาแพทย์ แบบโจมตี ผีมือพอๆ กับคาคาชิ (คาบุโตะ - หมวกเกราะ, โยโรอิ - ชุดเกราะ และ ซึรุงิ - ดาบ) หลังจากที่โอโรจิมารุถูกซาสึเกะฆ่า คาบูโตะก็เอาดีเอนเอบางส่วนของโอโรจิมารุปลูกถ่ายไว้ในร่างกาย จนตนเองกลายเป็นครึ่งคนครึ่งมังกร คาบูโตะเป็นคนเดียวที่สำเร็จวิชาเซียนกับเซียนงูขาว ในสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 คาบูโตะมีบทบาทเป็นอย่างมากในช่วงแรกด้วยการใช้คาถาสัมพเวสีคืนชีพ แต่สุดท้ายถูกอิทาจิใช้อิซานามิสะกดคาบูโตะไว้และคลายคาถาสัมพเวสีคืนชีพ ปัจจุบันสามารถออกจากอำนาจของอิซานามิได้แล้ว และ กลับตัวกลับใจ ไปช่วยซาซึเกะ

4 นินจาลูกน้อง

คางูยะ คิมิมาโร่
คางูยะ คิมิมาโร่ (ญี่ปุ่น君麻呂 ?) คางูยะ คิมิมาโร่ หนึ่งในห้านินจาลูกน้องของโอโรจิมารุ มีความสามารถเฉพาะ ที่จัดว่าเป็นขีดจำกัดสายเลือด สามารถนำกระดูกออกมาช่วยในการต่อสู้ได้ ได้ปะทะ กับ ลี และ กาอาระ และตายด้วยโรคที่ติดตัวมาในคณะกำลังต่อสู้กับทั้ง 2 คน
จิโรโบ
จิโรโบ (ญี่ปุ่น次郎坊 ?) 1 ใน 5 นินจาลูกน้องของโอโรจิมารุ พ่ายแพ้ให้กับอาคิมิจิ โจจิ มีพลังกายที่แข็งแกร่ง ส่วนใหญ่จะใช้พลังพสุธาหรือดูดพลังเป็นหลัก
คิโดมารุ
คิโดมารุ (鬼童丸) อดีตตัวตายตัวแทนของโอโรจิมารุ แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง จึงไม่เป็นที่ต้องการและโดนโอโรจิมารุหลอกให้ไปพาตัวซาซึเกะมาให้ ได้ปะทะกับ ฮิวงะ เนจิ
ซาคอน ยูคอน
ซาคอน ยูคอน (ญี่ปุ่น左近 • 右近 ?) 1 ใน 5 นินจาลูกน้องของโอโรจิมารุ เป็นฝาแฝดกัน มีความสามารถในการผสานเซลล์ของตัวเอง กับสิ่งมีชีวิต ซึ่งปกติจะผสานกันเองให้เป็นร่างเดียว ถูกคันคุโร่ฆ่าในตอนที่ตามตัวซาสึเกะกลับโคโนะฮะ
ทายูยะ
ทายูยะ (多由也) เป็นผู้หญิงคนเดียวใน 4 นินจาแห่งหมูบ้านโอโตะ มีนิสัยห้าว ถูกจิโรโบเตือนทุกครั้งแต่เธอก็ไม่สนใจแถมยังด่ากลับ ทายูยะใช้ขลุ่ยในการต่อสู้เพื่อสะกดจิตคู่ต่อสู้ให้หยุดนิ่งหรือทำกริยาต่างๆ และบังคับสัตว์อัญเชิญที่เธออัญเชิญมา

กลุ่มแสงอุษา

กลุ่มแสงอุษา (ญี่ปุ่น ?อะกัตซึกิความหมาย: รุ่งอรุณ) กลุ่มนินจาถอนตัวจากหมูบ้านแต่ละคนมีความสามารถระดับสูง โดยสมาชิกแต่ละคนจะสวมแหวนคนละหนึ่ง ซึ่งมีสํญลักษณ์เป็นตัวอักษรคันจิ ที่เป็นชื่อของเทพเจ้าและสัตว์ประหลาดจากตำนานของญี่ปุ่น เป้าหมายน่าจะเป็นการเอาพลังของสัตว์มีหางที่มีจักร แต่โดยแท้จริงแล้วต้องการที่จะรวบรวมอำนาจในการรับภารกิจ มาจาก 5 แคว้นเงา และมีเป้าหมายที่เปลี่ยนแปลงโลกนินจา มีสมาชิกรวม 11 คน
แผนครองโลกของ แสงอุษา คือ การรวบรวมสัตว์หางทั้ง 9 ตัวเพื่อรวมกลายเป็น 10หาง และเซียนหกวิถีนั้นมีเนตรวงแหวนขั้นสุดยอดเหนือกว่ามาดาระ มาดาระจึงคิดจะทำให้ตัวเองกลายเป็นพลังสถิตร่าง 10หาง แล้วตัวเองจะมีเนตรแบบเดียวกับเซียนหกวิถี... จากนั้น มาดาระจะใช้ วิชาเนตรขั้นสุดยอดที่สามารถทำให้ทุกคนในโลกนี้ตกภายในอำนาจเนตรนั้นไปตลอดกาล

เพน (นางาโตะ)

เพน (ญี่ปุ่น: ピアン ?) หัวหน้าของกลุ่มแสงอุษา เป็นเหมือนหุ่นเชิดของนางาโตะ มี 6 คน 6 วิถี คือ
1 วิถีสวรรค์ เป็นวิถีที่นางาโตะใช้บ่อยสุด มีความสามารถในการดึงและผลักวัตถุ
2 วิถีเดรัจฉาน มีความสามารถในการอัญเชิญสัตว์ที่มีเนตรสังสาระ มี 2 คน คนแรกถูกจิไรยะฆ่า อีกคนเป็นผู้หญิง ถูกนารุโตะฆ่า
3 วิถีอสูร เป็นครึ่งคนครึ่งหุ่นยนต์ เป็นเพนคนเดียวที่หัวล้าน มีอาวุธติดทั้งตัว มีหน้ายิ้มตลอดเวลา
4 วิถีเปรต สามารถดูดจักระได้ทุกชนิด ในตอนท้ายกลายเป็นกบหินเพราะดูดวิชาเซียนของนารุโตะ
5 วิถีมนุษย์ สามารถอ่านใจและดึงวิญญาณของคนอื่นได้
6 วิถีนรก สามารถอัญเชิญภูตแห่งนรกได้ สามารถชุบชีวิตใครก็ได้ที่เคยฆ่าไป 
 เพนทุกคนจะมีแท่งเสียบอยู่ตามร่างกาย เรียกว่าแท่งหกวิถี แท่งนี้จะออกมาจากร่างกายผู้ที่มีเนตรสังสาระ และใช้เพื่อรับจักระจากนางาโตะ
อุซึมากิ นางาโตะ เพื่อนของยาฮิโกะ ใช้วิชาเกี่ยวกับธาตุทั้ง 5 สายได้ยอดเยี่ยม มีเนตรสังสาระตั้งแต่ยังเด็ก เป็น1ใน3ลูกศิษย์ของจิไรยะเป็นเพื่อนสนิทของยาฮิโกะและเชื่อว่านารูโตะจะ ขจัดสงครามไปในโลกนินจา ถูกชุบชีวิตด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพของคาบุโตะในช่วงสงครามนินจาครั้งที่ 4 และถูกสะกดไว้ในดาบโทอะซึกะของอิทาจิ
เพน (นางาโตะ) อดีตลูกศิษย์ของจิไรยะโดยมีร่าง 6 ร่างโดยทั้ง 6 ร่างมีเนตรสังสาระด้วยเป็นคนที่จิไรยะเคยพบทั้งนั้น ท้ายที่สุดได้เจรจากับนารุโตะและสละชีวิตเพื่อคืนชีพให้นินจาโคโนะฮะที่ตาย ในการบุกหมู่บ้าน

โทบิ

โทบิ (ญี่ปุ่นトビ ? Tobi ) บุคคลปริศนา ปิดบังใบหน้าที่แท้จริงใต้หน้ากาก หรืออีกชื่อคือ อุจิวะ โอบิโตะ อดีตเพื่อนร่วมทีมของคาคาชิและอดีตลูกศิษย์ของนามิคาเซะ มินาโตะ (พ่อของนารุโตะ โฮคเงะรุ่นที่ 4)
โทบิ หนึ่งในสมาชิกแสงอุษา ผู้ใช้แนตรวงแหวนอีกคนหนึ่ง ลูกน้องของเดอิดาระ มีนิสัยออกติ๊งต๊อง เป็นคนก่อตั้งแสงอุษาขึ้นมาและเป็นคนประกาศสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 สุดท้ายเฉลยคือ อุจิวะ โอบิโตะ อดีตเพื่อนร่วมทีมของคาคาชิและอดีตลูกศิษย์ของมินาโตะ (โฮคาเงะรุ่นที่ 4) และสามารถเบิกเนตรสังสาระได้สำเร็จโดยการเอาเนตรของนางาโตะมาใส่อีกข้างหนึ่งปัจจุบันเป็นพลังสถิตร่างของ 10 หาง
อุจิวะ โอบิโตะ ({{ญี่ปุ่น|うちはオビト Uchiha Obito ) เพื่อนร่วมทีมของฮาตาเกะ คาคาชิ และ ริน ลูกศิษย์ของโฮคาเงะรุ่นที่ 4 เป็นคู่กัดของคาคาชิ และเป็นผู้ที่สละเนตรวงแหวนให้คาคาชิ เป็นของขวัญที่คาคาชิได้เลื่อนขั้นเป็นโจนิน ก่อนที่จะสิ้นใจ แต่ถูกช่วยไว้โดย อุจิวะ มาดาระ

อุจิวะ อิทาจิ

อุจิวะ อิทาจิ (ญี่ปุ่นうちは イタチ ?) เป็นพี่ชายแท้ๆของ อุจิวะ ซาซึเกะ เป็นอดีตหน่วยลับของโคโนฮะ ถูกตามล่า เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าฆ่าล้างตระกูลของตนเอง โดยปล่อยให้ ซาซีเกะรอดเพื่อเหตุผลคือ เพื่อให้ซาสึเกะแข็งแกร่งและเก่งขึ้น แพ้ให้กับซาสึเกะในการต่อสู้ ถูกชุบชีวิตด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพของคาบุโตะในช่วงสงครามนินจาครั้งที่ 4 แต่เป็นคนเดียวที่คุมตัวเองได้ และเป็นคนที่คลายคาถาสัมพเวสีคืนชีพด้วยการสะกดคาบูโตะไว้ อุจิวะ อิทาจิ เป็นนินจาถอนตัวแห่งโคโนฮะ เป็นพี่ชายของซาสึเกะ ซึ่งเป็นผู้ปิดม่านประวัติศาสตร์ของตระกูลอุจิวะ สิ้นชีวิตด้วยฝีมือซาสึเกะ แต่ก่อนตายได้มอบพลังเนตรของตนให้กับซาสึเกะ

โฮชิงากิ คิซาเมะ

โฮชิงากิ คิซาเมะ (ญี่ปุ่น干柿 鬼鮫 ?) เป็น 1 ใน 7 ดาบนินจาแห่งคิริงาคุเระรุ่นปัจจุบัน ซึ่งนับถืออิทาจิค่อนข้างมาก อดีตนินจาถอนตัวของคิริงาคุเระ ปลิดชีพตัวเองเพื่อรักษาความลับให้แสงอุษา และเคยปลิดชีวิตเพื่อนร่วมทีมเพราะความลับด้วยเช่นกัน ได้ยกย่องว่ามี ความรับผิดชอบสูงมาก และเมื่อคู่กับอิทาจิ จะได้ฉายาว่า Dangerus Character และหนึ่งในแสงอุษาที่ฟื้นจากความตาย

โคนัน

โคนัน (ญี่ปุ่นカイザ ?) เป็นอดีตศิษย์ของจิไรยะ มีเพื่อนร่วมทีมคือ เพน และนางาโตะ จิไรยะสอนวิชานินจาให้เด็กทั้ง 3 คือ เป็นเวลา 3 ปี แล้วก็กลับโคโนฮะไป โคนันถูกโทบิฆ่าเพราะไม่ยอมบอกที่ซ่อนตัวของนางาโตะ ถือว่าเป็นคนที่รักเพื่อนอย่างแท้จริง เมื่อโคนันรู้ตัวว่า อาจสู้ไม่ได้ เธอได้ทุ่มกำลังอย่างเต็มที่ในการสู้กับโทบิ เป็นตัวละครที่น่านับถือมาก เมื่อตาย อาจารย์ และศิษย์ทั้ง3 จะได้พบหน้ากันอีกครั้ง...
โคนัน ใช้วิชานินจากระดาษในการต่อสู้ โดยมีนิสัยชอบพับกระดาษตั้งแต่เด็ก เมื่อเพนตายโคนันก็ถอนตัวออกจากองค์กร สิ้นชีวิตด้วยฝีมือโทบิ

เดอิดาระ

เดอิดาระ (ญี่ปุ่นデイダラ ?) อดีตนินจาหมู่บ้านอิวะ มีความสามารถในการใช้ดินเหนียว สร้างเป็นวัตถุต่างๆ รวมทั้งระเบิด มีคำพูดติดปากว่า " อืมม์ " เสียชีวิตจาการต่อสู้กับซาสึเกะ โดยการระเบิดตัวเองโดยกินดินเหนียวจากปากที่ผนึกอยู่ที่หน้าอก
เดอิดาระ อดีตนินจาแห่งอิวะงาคุเระ คำพูดติดปาดคำว่า "อืมม์" สนิทกับซาโซริในฐานะศิลปิน สละชีวิตเพื่อจัดการซาสึเกะ แต่ซาสึเกะรอดตาย

อากาซึนะโนะ ซาโซริ

อากาซึนะโนะ ซาโซริ (赤砂のサソリ) อดีตนินจาแห่งซึนะ เป็นผู้คิดค้นหุ่นเชิด ในอดีตเป็นผู้ปลิดชีวิตคาเซะคาเงะรุ่น 3 และสิ้นชีวิตโดยเต็มใจด้วยฝีมือ ย่าโจและซากุระ

คาคุซึ

คาคุซึ (角事) มีนิสัยชอบเงินเป็นที่สุด มีหัวใจรวม 5 ดวง ถูกเรียกโดยคิซาเมะว่า ซอมบี้คอมโบ (ゾンビコンビ) เคยต่อสู้กับโฮคาเงะรุ่น 1 และนั่งดูฮิดันฆ่าอาสึมะ ซึ่งสิ้นชีวิตด้วยฝีมือ นารูโตะ และ ฮาตาเกะ คาคาชิ

ฮิดัน

ฮิดัน (ญี่ปุ่นヒダン ?) เป็นคู่หูของคาคุซึ เชื่อเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า มีร่างกายเป็นอมตะ และ เป็นผู้สังหารอาซึมะ ถูกชิกามารุซึ่งเป็นลูกศิษย์เอกของอาซึม่า ระเบิดร่างจนเหลือแต่หัว และใช้หินถล่มทับไว้
ฮิดัน นับถือพระเจ้าสูงสุดที่ชื่อ จาคิน มีคำสาปในการปลิดชีวิตผู้คน เป็นอมตะ ปลิดชีวิตซารุโทบิ อาซึม่า และถูกฆ่าด้วยฝีมือของ นารา ชิกามารุ

เซ็ทสึ

เซ็ทสึ (ぜツ) มี 2 บุคลิกในตนเอง(ขาวกับดำ) มีไหล่คล้ายกาบหอยแครง สามารถเคลื่อนแฝงตัวเองเป็นสสารไปรวมกับสิ่งใดก็ใด้ เซ็ทสึไม่ใช่นินจาสงครามจึงไม่เน้นที่จะสู้กับใคร
เซ็ทสึ เป็นแอนดอยมีชีวิตที่เกิจากการดัดแปลงรหัสพันธุกรรมของฮาชิระมะโดยมาดาระ นักซ่อนตัวที่เก่งที่สุดในกลุ่มแสงอุษา มีความสามารถในการแทรกร่ากายเข้าไปในพื้นดินหรือผนังและดูเหมือนจะมี 2คนในร่างเดียวสามารถแยกร่างออกจากกันได้สามารถแยกร่างได้มากมายและยังสามรแปลงร่างเป็นใครก็ได้ที่ตนเคยสัมผัสหรือเคยกินจักระของคนคนนั้นโดยแทบแยกแยะไม่ออก ถูกนารูโตะเรียกว่า "ว่านหางจระเข้ " ภายหลังก็มาเป็นพวกของคาโอริ

ทีมงู ทีมเหยี่ยว

ทีมงู (蛇 อ่านว่า เฮบิ) ทีมเหยี่ยว (鷹 อ่านว่า ทากะ) หลังจากที่ ซาซึเกะจัดกาฆ่า โอโรจิมารุแล้ว ซาซึเกะ ได้มีการหาสมาชิกในทีม ประกอบด้วย ซุยเงสึ อดีตนินจาหมู่บ้านคิรินาคุเระ รุ่นน้องซาบุสะ ได้ใช้ดาบของซาบุสะ ซึ่งดาบนั้นจะสืบทอดจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง ได้รับการช่วยเหลือจากซาสึเกะจากห้องทดลองของโอโรจิมารุ ,จูโกะ นักโทษฐานลับทิศเหนือ สถานที่หลักในการทดลองของโอโรจิมารุ มาบำบัดเพื่อต้องการหยุดการกระหายที่จะฆ่า มีความสามารถแปลงสภาพ เป็นคน โปรดของโอโรจิมารุ เป็นคู่ขาของคิมิมาโระ มีแค่คิมิมาโระที่สามารถหยุดจูโกะได้ ,คาริน เป็นนินจาลูกน้องโอโรจิมารุ ผู้คุมขังนักโทษ เป็นคนจงรักภักดีต่อโอโรจิมารุ หลังจากการชักชวนของซาสึเกะ เป้าหมายของทีมนี้ คือ ตามล่าหา อิทาจิ ปัจจุบันใช้ชื่อทีมเหยี่ยวเป้าหมายใหม่คือทำลายโคโนฮะ

จูโกะ

จูโกะ (ญี่ปุ่น重吾  ?) นักโทษฐานลับทิศเหนือ สถานที่หลักในการทดลองของโอโรจิมารุ มาบำบัดเพื่อต้องการหยุดการกระหายที่จะฆ่า มีความสามารถแปลงสภาพ เป็นต้นกำเนิดของอักขระสาป เคยช่วยชีวิตซาสึเกะตอนที่สู้กับคิลเลอร์บี แต่ตนเองก็กลับกลายเป็นเด็ก

ซุยเงสึ

ซุยเงสึ (ญี่ปุ่น水月  ?)เป็นน้องชายของ ฮอนซุกิ มันเงซึ อดีตนินจาหมู่บ้านคิรินาคุเระ รุ่นน้องซาบุสะ ได้ใช้ดาบของซาบุสะ ซึ่งดาบนั้นจะสืบทอดจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง ได้รับการช่วยเหลือจากซาสึเกะจากห้องทดลองของโอโรจิมารุ และได้เข้าร่วมทีม "เหยี่ยว" ของซาสึเกะ เป้าหมายจัดการกับ อุจิวะ อิทาจิ ซุยเงสึจริงๆเกลียดทุกคนในกลุ่มของซาสึเกะ โดยเกลียดจูโกะมากสุด รองลงมาก็คาริน ตามด้วยซาสึเกะ ซุยเงสึเหมือนเป็นตัวถ่วงของทีมเหยี่ยว เพราะเป็นคนเหนื่อยง่าย และต้องมีน้ำระหว่างเดินทาง จึงมักถูกคารินเรียกว่า "กัปปะเดินดิน" และมีร่างกายเป็นน้ำ ชอบใช้วิชา ปืนน้ำ ของตระกูล โฮซึกิ

อุซึมากิ คาริน

คาริน (ญี่ปุ่น香燐 ?) เป็นนินจาลูกน้องโอโรจิมารุ ผู้คุมขังนักโทษ เป็นคนจงรักภักดีต่อโอโรจิมารุ หลังจากการชักชวนของซาสึเกะ ได้เข้าร่วมทีม"เหยียว" ของซาสึเกะ สามารถรับรู้จักระของผู้อื่นได้และสามารถรักษาบาดแผลคนอื่นได้ด้วยการกัดที่ร่างกายของคาริน คารินเคยชอบซาสึเกะมาก่อน แต่พอถูกซาสึเกะทำร้ายตอนสู้กับดันโซ ก็ครึ่งเกลียดครึ่งรักซาสึเกะ เป็นคนในตระกูลอุซึมากิ

กลุ่มเจ็ดดาบนินจาแห่งคิริ

กลุ่มเจ็ดดาบนินจาแห่งคิริ (ญี่ปุ่น霧の忍刀七人衆 ?คิริโนะชิโนะบิงะตะนะ นะนะนินชู) กลุ่มเจ็ดดาบแห่งคิริคือนินจา ที่ใช้ดาบที่เก่งที่สุดในหมู่บ้านคิริงะคุเระปรากฏแล้ว 4คน คือ ซาบุซะ, คิซาเมะ (หลังจากที่คิซาเมะตายดาบของคิซาเมะไปอยู่ที่คิลเลอร์ บี), ไรงะ, โชจูรุ และซุยเงสึ (นินจาฝึกหัด) นินจาในกลุ่มจะส่งต่อดาบของตนให้สมาชิกรุ่นต่อไป ตอนนี้กลุ่มเจ็ดดาบนินจาแห่งคิริรุ่นแรกทั้งหมด ปรากฏตัวออกมาแล้ว ใน Ch 522 แต่ยังไม่ปรากฏชื่อ

ฮาคุ

ฮาคุ (ญี่ปุ่น ?) มีความสามารถสูงเนื่องจากมีวิชาน้ำแข็งซึ่งเป็นขีดจำกัดสายเลือด ใช้เข็มเป็นอาวุธ ซาบุซะได้รับฮาคุมาเลี้ยงและให้ความใส่ใจ ฮาคุจึงสัญญาต่อตัวเอง ว่าจะเป็นเครื่องมือให้ซาบุซะจนตาย ถูกชุบชีวิตด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพของคาบุโตะในช่วงสงครามนินจาครั้งที่ 4

อุจิวะ มาดาระ

อุจิวะ มาดาระ (ญี่ปุ่นうちはフガク ?) ชำนาญในการใช้เนตวงแหวนถึงขั้นสูดสุดและเนตรสังสาระ ได้ถูกเข้าใจว่าถูกสังหารในหุบผาสิ้นสุด โดยโฮคาเงะรุ่น 1 แต่รอดมาได้โดยสูบพลังจากเทวรูปนอกรีดจนไปช่วย อุจิวะ โอบิโตะ ภายหลัง ได้ถูกอัญเชิญด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพโดยคาบุโตะได้เข้ามาสู้กับ 5คาเงะในสงครามนินจาครั้งที่ 4 มาดาระสามารถเบิกเนตรสังสาระและสามารถใช้คาถาไม้ได้หลังจากที่ถูกชุบชีวิต และเป็นคนเดียวที่หลังคลายคาถาสัมพเวสีคืนชีพแล้ว ยังสามารถอยู่ต่อได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น